การจัดฟันแบบ invisalign ใช้ได้เฉพาะกับคนที่มีปัญหาฟันเล็กน้อยรึเปล่า การจัดฟันแบบนี้ได้รับการวิจัยและยืนยันว่าสามารถรักษาปัญหาฟันได้หลายระดับความรุนแรง ไม่ว่าจะเป็นฟันซ้อนเก ฟันห่าง หรือฟันยื่น เห็นมั้ยล่ะว่าการจัดฟันแบบใสไม่ได้รักษาเฉพาะอาการเล็กน้อยเท่านั้นนะ เพราะฉะนั้นใครที่ฟันมีปัญหาเหล่านี้สามารถไปพบทันตแพทย์เพื่อปรึกษาด่วนเลย

การจัดฟันแบบใส Invisalign มีข้อดีหลายอย่างด้วยกัน

– รักษาสุขภาพที่ดีของช่องปาก สามารถถอดอุปกรณ์ออกง่ายต่อการแปรงฟัน
– เห็นภาพผลการรักษาในแต่ละขั้นตอนแบบดิจิตอล 3 มิติ ไม่มโน!
– สามารถมีไลฟ์สไตล์ที่ต้องการได้ ไม่ว่าจะเล่นกีฬา เล่นเครื่องดนตรีเป่า และอีกหลากหลายกิจกรรมโดยไม่ต้องกังวล มีอิสระในการทำกิจกรรมต่างๆ เมื่อเลือกถอดอุปกรณ์จัดฟันออกได้
– ยิ้มได้อย่างมั่นใจมากขึ้น เมื่ออุปกรณ์จัดฟันใสจนคนแทบไม่สังเกตุเห็น
– อาจพบทันตแพทย์น้อยครั้งกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป

แล้วเรื่องค่ารักษาล่ะ แพงมั้ย?

ค่ารักษาต่างกันไปตามอาการปัญหาของฟันเริ่มต้นที่เจ็ดหมื่นห้าพันบาท

– การรักษาระยะสั้น Invisalign i7
– การรักษาระยะกลาง invisalign light
– การรักษาแบบเต็มขั้นตอน invisalign Full ดูแลรักษาจนกว่าจะหายดีครอบคลุมระยะเวลา 5 ปี

ขั้นตอนการจัดฟันแบบนี้ยุ่งยากมั้ยนะ

ฝากชาววงใน การจัดฟันแบบใส Invisalign นั้นไม่ยุ่งยากเลย ขั้นตอนก็ง่ายมากๆ
1. สแกนฟัน ด้วยเครื่องสแกนฟันดิจิตอล 3 มิติ iTero เพื่อเก็บข้อมูลฟันอย่างครบถ้วน
2. วางแผนการรักษาโดยทันตแพทย์และผู้ผลิตเครื่องมือจัดฟัน invisalign
3. ผลิตเครื่องมือจัดฟันแบบใสเฉพาะเพื่อเรา(สั่งผลิตในสหรัฐอเมริกา)
4. รับอุปกรณ์จัดฟันแบบใส ทันตแพทย์จะทยอยส่งมอบเครื่องมือจัดฟัน โดยปกติแล้ว 6-8 ชุดต่อครั้ง เพื่อให้สวมทุกวันและเปลี่ยนที่บ้านทุกหนึ่งสัปดาห์

ง่ายใช่มั้ยล่ะ ซึ่งเราต้องพบแพทย์ทุก 6-8 สัปดาห์เพื่อติดตามผลและรับเครื่องมือจัดฟันชุดต่อไป
ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาในการรักษาอยู่ที่ 12-30 เดือน ขึ้นอยู่กับปัญหาฟัน